บริการ 10 คู่สายอัตโนมัติ

042 870 000 บริการ 10 คู่สายอัตโนมัติ

บทความเพื่อสุขภาพ

RSV...ไวรัสร้ายที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก

8/21/18, 3:20 AM

ไวรัส “RSV"

ไวรัส RSV (RSV Virus) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Respiratory Syncytial Virus เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ทำให้ร่างกายผลิตสารคัดหลั่งจำนวนมาก เช่น เสมหะ เป็นต้น เชื้อไวรัสนี้แพร่กระจายผ่านการไอหรือจาม พบผู้ที่ติดเชื้อไวรัส RSV ได้ในทุกวัย แต่พบมากในเด็กและทารก ซึ่งเป็นวัยที่มักเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนได้

อาการของการติดเชื้อไวรัส RSV

อาการของการติดเชื้อไวรัส RSV โดยปกติผู้ป่วยจะแสดงอาการหลังสัมผัสถูกเชื้อไวรัสในระยะเวลา 4-6 วัน ผู้ใหญ่หรือเด็กโตมักพบอาการคล้ายไข้หวัด ได้แก่ คัดจมูก มีน้ำมูก มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ ไอแห้ง เจ็บคอ ไวรัส RSV พัฒนาไปสู่โรคขั้นรุนแรงได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้ เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมฝอยอักเสบ เป็นต้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจหรือโรคปอดเรื้อรัง และรวมไปถึงอาการดังต่อไปนี้

  • มีไข้
  • ไออย่างรุนแรง
  • หายใจมีเสียงหวีด
  • หายใจเร็ว หรือหายใจลำบาก ทำให้ผู้ป่วยชอบนั่งมากกว่านอน
  • บริเวณปากหรือเล็บมีสีเขียวคล้ำจากการขาดออกซิเจน

โดยปกติ อาการของการติดเชื้อไวรัส RSV ในเด็กโตและผู้ใหญ่จะดีขึ้นหลังได้รับการรักษาเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ แต่ในเด็กเล็กและทารกหลังสัมผัสกับเชื้อไวรัสในช่วง 2-8 วัน อาจมีอาการที่รุนแรงมากกว่า โดยพบอาการได้ดังนี้

  • เบื่ออาหาร
  • หายใจเร็วกว่าปกติ
  • หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก
  • จาม ไอ มีไข้ น้ำมูกไหล
  • หงุดหงิดง่าย หรือเซื่องซึม

เด็กหรือทารกที่มีอาการดังนี้ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

  • ประสบภาวะขาดน้ำ สังเกตได้จากตอนร้องไห้จะไม่มีน้ำตาไหลออกมา
  • ไอและมีเสมหะเป็นสีเทา สีเขียว หรือสีเหลือง
  • หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่าปกติ หรือหอบเหนื่อย
  • มีน้ำมูกเหนียวทำให้หายใจลำบาก
  • ปลายนิ้วหรือปากเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำจากภาวะขาดออกซิเจน
  • เด็กทารกที่มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส เซื่องซึม เบื่ออาหาร หรือมีผื่นขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ

การรักษา

ตามปกติแล้วเด็กที่ติดเชื้อไวรัสRSV จะเป็นการรักษาตามอาการและรักษาแบบประคับประคอง ส่วนใหญ่จะดีขึ้นและหายจากาการป่วยภายใน 1 – 2 สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็กทารก ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจหรือโรคปอดเรื้อรัง ส่วนใหญ่จะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

การป้องกัน

1.ล้างมือให้สะอาดก่อนเข้าใกล้ หรืออุ้มเด็กเล็ก 2.หากลูกมีอาการไข้ที่เกิดจากไวรัสRSV ควรพักรักษาตัวให้หายป่วยก่อน ไม่ควรให้ลูกไปโรงเรียนหากยังไม่หายดี เพราะอาจจะไปแพร่เชื้อให้กับเด็กคนอื่นได้ 3.หมั่นทำความสะอาดของใช้ภายในบ้าน ของเล่นเด็ก 4.หลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกไปสัมผัสกับคนแปลกหน้า เช่น ไม่ให้คนแปลกหน้าสัมผัส กอด หอมแก้ม เพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ 5.ไม่ควรใช้แก้วน้ำร่วมกัน ควรแยกการใช้แก้วน้ำของตัวเอง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

กุมารเวชกรรม

นัดหมายแพทย์

ติดต่อสอบถาม